สิ่งที่มาพร้อมกับอายุที่มากขึ้นคือริ้วรอย ผิวหนังที่เริ่มหย่อนคล้อย แม้ในปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีที่ส่วนยกกระชับผิวแบบไม่ต้องผ่าตัดหรือใช้เข็มฉีดยาแล้วอย่าง HIFU แต่การทำ HIFU นั้นสามารถยกกระชับได้ทุกส่วนเลยไหม? ทำส่วนไหนได้บ้าง? เราได้หาคำตอบมาให้ในบทความนี้แล้ว ตามมาอ่านกันได้เลยค่ะ
ไฮฟู่ (HIFU) ทำส่วนไหนได้บ้าง
มาทำความรู้จักกับหลักการทำงานของ HIFU (High Intensity Focus Ultrasound) กันก่อนนะคะ ซึ่งหลักการทำงานของ HIFU นั้นจะคล้ายกับการทำงานของ Ultherapy หรือ อัลเทอร่า (Ulthera) เป็นการใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์พลังงานสูง ยิงเข้าไปในผิวหนังชั้นลึกหรือผิวหนังชั้น SMAS ให้เกิดการหดตัว เหมือนเป็นการเย็บผิวชั้นใน ทำให้ผิวดูกระชับขึ้นโดยไม่มีบาดแผล ซึ่งผิวหนังชั้น SMAS นี้ เป็นผิวหนังชั้นเดียวกันกับที่ผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อยกกระชับใบหน้าเลยค่ะ จึงสามารถยิงไปได้ทุกส่วนของร่างกายที่ต้องการยกกระชับผิว
ซึ่งนอกจากจะช่วยยกกระชับผิวแล้ว ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง และสลายไขมันส่วนเกินอีกด้วยค่ะ และแน่นอนว่า นอกจากจะช่วยยกกระชับผิวหนังแล้ว ริ้วรอยต่างๆแลดูจางลง ผิวพรรณในส่วนที่ทำ HIFU ดูกระจ่างใส เปล่งปลั่งขึ้นด้วยค่ะ เรียกได้ว่าดีงาม!
ส่วนที่ทำแล้วเห็นผลชัดเจน
จริงๆแล้วการทำ HIFU นั้นสามารถทำได้ทั่วทุกส่วนร่างกายเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นช่วงใบหน้า ร่างกาย จะมีหัวยิงที่แบ่งตามความลึกของชั้นผิวในบริเวณที่ต้องการ ซึ่งปัญหาของผิวและสภาพผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน แพทย์จึงจะประเมินวิธีการรักษาเพื่อให้เหมาะสมไปในแต่ละคน
ใบหน้า – เหนียง คอ ร่องมุมปาก ร่องมุมแก้ม หน้าผาก กรอบหน้า ใต้ตา รอบดวงตา
สามารถช่วยปรับรูปทรงใบหน้าให้ดูเรียวขึ้น วีเชฟ กระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และยังช่วยสลายไขมันส่วนเกิดในบริเวณใต้คาง เหนียง ให้ดูมีความกระชับมากยิ่งขึ้น เผยให้เห็นกรอบหน้าที่ชัดเจน
ร่างกาย – ต้นแขน ต้นขา เอว สะโพก หน้าท้อง
นอกจากจะช่วยยกผิวให้ดูกระชับขึ้นแล้ว อย่างที่บอกไปนะคะว่าการทำ HIFU สามารถช่วยสลายไขมันส่วนเกินไป ทำให้เราสามารถเก็บเหนียง ต้นแขน ต้นขา แก้ม หรือบริเวณที่มีไขมันส่วนเกินให้มันกระชับขึ้นได้ค่ะ ซึ่งการทำ HIFU นั้นจะยิ่งได้ผลลัพธ์ที่ดีจากส่วนที่เกิดจากปัญหาผิวหย่อนคล้อยค่ะ
การทำ HIFU จะแบ่งหัวยิงตามความลึกของชั้นผิว
การทำ HIFU จะมีหัวหลากหลายให้แพทย์ได้เลือกใช้ ซึ่งแพทย์จะประเมินปัญหาของคนไข้ และเลือกใช้หัวยิงที่เหมาะสมกับบริเวณชั้นผิว สามารถแบ่งได้ดังนี้
หัวยิงความลึก 2.0 มม. ผิวชั้นบน ช่วยลดริ้วรอย เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา ระหว่างคิ้ว หน้าผาก
หัวยิงความลึก 3.0 มม. ผิวชั้น DERMIS ช่วยลดไขมันและเซลล์ลูไลท์ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินให้กับผิว หลังทำจะรู้สึกว่าผิวหน้าแน่นขึ้น
หัวยิงความลึก 4.5 มม. ผิวชั้น SMAS เป็นชั้นเดียวกันกับที่ใช้ในการศัลยกรรม ช่วยยกกระชับใบหน้า ผิวเกิดการหดตัว คล้ายกับเป็นการเย็บผิวให้กระชับขึ้นโดยที่ไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัว ใบหน้าจะดูเรียวเล็กมากขึ้น
แม้ว่าการทำ HIFU จะสามารถทำได้ทุกส่วนของร่างกาย และมีหัวยิงหลากหลายที่แบ่งตามความลึกของชั้นผิว แต่การรักษากับคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็มีความสำคัญมากค่ะ โดยที่ AWC Wellness Clinic แพทย์จะวิเคราะห์และประเมินรายบุคคล เพื่อหาแนวทางการแก้ไขและผลลัพธ์ให้ออกมาดีที่สุด