แม้ว่า Picosecond laser จะทำการรักษาปัญหาผิวได้ค่อนข้างหลากหลายเรียกได้ว่าแทบจะครบจบในเครื่องเดียว แต่ก็ยังมีข้อจำกัดสำหรับบางบุคคลที่ไม่ควรทำการรักษาด้วย Picosecond laser เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ของตัวคนไข้เอง ใครที่ไม่ควรทำเลเซอร์บ้าง? ตามมาอ่านพร้อมกับตรวจสอบตัวเองกันได้เลยค่ะ
Picosecond laser คืออะไร?
นวัตกรรมเลเซอร์รักษาปัญหาผิวล่าสุดอย่าง Picosecond laser ที่ตอบโจทย์คนไข้มากที่สุด พัฒนามาจากเลเซอร์แบบเดิมๆที่มีความเร็วของพลังงานจากระดับนาโนเซ็คคอนด์ ( 1 ต่อ 1 พันล้านวินาที ) ให้กลายมาเป็นระดับ Picosecond ( 1 ต่อ 1 ล้านล้านวินาที ) ทำให้เห็นผลได้ไวกว่า รู้สึกเจ็บน้อยกว่า ระยะเวลาในการรักษาสั้นกว่า และผลข้างเคียงน้อยกว่า ซึ่งสงเลเซอร์ชนิดนี้ได้เปลี่ยนจากพลังงานความร้อนให้เป็นแรงดัน ทำให้เมื่อยิงแสงเลเซอร์ไปที่บริเวณผิวหนัง ความร้อนนั้นจะไม่เกิดการกระจายไปยังผิวบริเวณรอบๆ ผิวบริเวณนั้นจึงจะไมได้รับผลกระทบไปด้วย และเซลล์เม็ดสีผิวเกิดการกระจายตัวอย่างละเอียด ทำให้สามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
ใครบ้างที่ไม่ควรทำ Picosecond laser
ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือกำลังอยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ระดับฮอร์โมนในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ระดับเอสโตรเจนของผู้หญิงจะเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อความหนาของผิว การไหลเวียนของเลือด ควรให้ผ่านช่วงของการให้นมบุตรก่อนมารับการรักษาด้วย Picosecond laser
ผู้ที่เป็นโรคหรือมีอาการทางผิวหนังที่ไวต่อแสง รวมไปถึงผู้ที่ทานยาที่ทำให้เกิดภาวะความไวต่อแสง เช่น ยาในกลุ่มรักษาสิวบางตัว ยารักษาโรคมาลาเรีย เนื่องจากหลังจากที่ทำเลเซอร์ไปแล้วผิวหนังจะมีสภาพที่บอบบางมากกว่าปกติ ทำให้ไวต่อแสงแดดมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดรอยคล้ำจากแสงแดดหรือมีอาการระคายเคืองจากการรักษาได้
ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคลมชัก ลมบ้าหมู โรคหัวใจที่ต้องใช้เครื่องกระตุ้นการเต้น หรือมีประวัติการแพ้ยาต่างๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำการรักษา
ผู้ที่กำลังทานยารักษาโรคผิวหนังอักเสบบางชนิด มีปัญหาหลอดเลือด เนื่องจากเมื่อผิวหนังนั้นเกิดการอักเสบร่างกายจะสร้างสารเคมีชนิดหนึ่งขึ้นที่ไปกระตุ้นเซลล์เม็ดสีที่ผิวหนังให้เพิ่มขึ้น ทำให้เห็นเป็นรอยคล้ำในบริเวณที่ผิวหนังเคยอักเสบมาก่อน ควรรักษาอาการผิวหนังอักเสบให้หายก่อนมารับการรักษาด้วยเลเซอร์
ผู้ที่มีรอยแผลถลอก แผลเปิด หรือแผลต่างๆที่ยังรักษาไม่หายดี ยังไม่ควรทำการรักษาด้วยเลเซอร์ ควรรักษาให้แผลนั้นหายดีก่อนมารับการรักษาด้วยเลเซอร์
ซึ่งก่อนรับการรักษานั้นควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำด้วยและยาที่แพ้ให้แพทย์นั้นได้ทราบ เพื่อการวิเคราะห์และประเมินการรักษาที่เหมาะสมกับคนไข้ให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด สามารถปรึกษาปัญหาผิวฟรีได้ที่ AWC Wellness Clinic โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังกว่า 15 ปีดูแลคนไข้ทุกเคสด้วยตัวเอง