สารเติมเต็ม (Filling Substance) คือ สารที่ใส่เข้าไปเพื่อเพิ่ม ปริมาณเนื้อเยื่อที่หายไปหรือร่องลึกให้เต็มตื้น และเต่งตึงขึ้น ที หมอใช้และมั่นใจว่าปลอดภัยคือ “ไฮยาลูโรนิกแอซิด” (Hyaluronic Acid) หรือ HA เช่น เรสไทลีน ( Restylene) และ Juve- derm ไฮยาลูโรนิกแอชิดเป็นสารที่นิยมฉีดกันมาก ปัจจุบันมีผู้ฉีดสารเต็มเติมชนิดนี้แล้วกว่า 27 ล้านคน HA เป็นสารที่มีอยู่ใน ร่างกายของคนเราตามธรรมชาติอยู่แล้ว จึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือผลข้างเคียงใดๆ และไม่ต้องทดสอบการแพ้ก่อนฉีด
สารเติมเต็มในฟิลเลอร์มีอะไรบ้าง
Hyaluronic Acid (HA) หรือ กรดไฮยาลูโรนิก คือ สารธรรมชาติชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในร่างกาย ถูกผลิตขึ้นบริเวณผิวหนังชั้น ใน(Dermis) มีปริมาณมากในเนื้อเยื่อภายนอกเซลล์และคอยยึดจับโปรตีนคอลลาเจนเข้าไว้ด้วยกันมีคุณสมบัติเด่นเป็นสารอุ้ม นํ้า ช่วยให้ผิวหนังสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ ส่งผลให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้นและเต่งตึง นอกจากนี้สารไฮยาลูรอนยังเป็น องค์ประกอบสําคัญของกระดูกอ่อนตามข้อต่อในร่างกาย เพราะสารไฮยาลูรอนนี้จะช่วยหล่อลื่นข้อต่อไม่ให้เสียดสีกัน กรดไฮยาลูโรนิก (HA) เป็นโมเลกุลของน้ําตาลชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Polysaccharide ซึ่งมีอยู่ในเนื้อเยื่อของร่างกาย และ ร่างกายสามารถสร้างขึ้นได้เองตามธรรมชาติ แต่เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายของคนเราจะผลิตสารกรดไฮยาลูโรนิก และเส้นใย คอลลาเจนได้น้อย และช้าลงเรื่อยๆ โดยทั่วไปแล้วผิวหนังจะเริ่มเสื่อมเมื่ออายุเกิน 20 ปี ผิวจะเริ่มขาดความชุ่มชื้น ผิวแห้ง ผิวบางลง และขาดความยืดหยุ่น ต่อมาก็จะเริ่มมีริ้วรอย ร่องลึก ผิวเหี่ยวย่น และหย่อนคล้อย ดังนั้นทางการแพทย์จึงได้ทํา การสังเคราะห์ไฮยาลูรอน ขึ้นมา เพื่อทดแทนสารไฮยาลูโรนิกที่ร่างกายสร้างขึ้น
Poly-L-lactic acid (PLLA) กรดโพลี แอล แลคติก แอชิด (Poly L lactic acid หรือ PLLA) จัดอยู่ในกลุ่มสารฟิลเลอร์แบบ แบบกึ่งถาวร ที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่สามารถสลายได้หมด 100% โดยสารเติมเต็ม PLLA นี้เป็นสารอุ้มน้ําที่ สามารถเข้ากันได้กับเนื้อเยื่อในร่างกาย ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง และช่วยเติมเต็มร่องลึกและริ้วรอยดี ซึ่งจะ นิยมใช้สารเติมเต็มชนิดนี้กันอย่างมากในยุโรปและอเมริกาและในทางการแพทย์มักจะน่ามาใช้เป็นวัสดุเย็บแผลที่ละลายได้หรือ ใช้ดามกระดูก เช่น ไหมละลาย และตะปูเกลียวยึดกระดูก อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์การคงตัวที่ยาวนานมากถึง 2-5 ปี
Calcium Hydroxyapatite (CaHA) สารแคลเซียม ไฮดรอกซีอะพาไทท์ (Calcium Hydroxyapatite หรือ CaHA) เป็นสาร อีกชนิดหนึ่งที่จัดอยู่ในกลุ่มฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร และจะสามารถสลายไปได้แค่บางส่วน ทําให้ยังมีสารตกค้างอยู่ใต้ชั้นผิว จ สารชนิดนี้เป็นแร่ธาตุที่พบได้ในกระดูกและฟันของมนุษย์ มีความคงตัวสูง สามารถนํามาใช้ในการเติมเต็มได้หลายบริเวณ เช่น ใบหน้า หลังมือ หน้าอก และสะโพก ซึ่งจะนิยมใช้ได้ในต่างประเทศ แต่ในประเทศไทยยังไม่ได้รับอนุญาตให้นํามาใช้ อาจเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายหากปล่อยทิ้งไว้นานแล้วสลายไม่หมดก็ต้องขูดออกเท่านั้นโดยผลลัพธ์สารเติมเต็มในฟิล
Polyalkylimide สารโพลีอัลคิลลิไมด์ (Polyalkylimide) เป็นพลาสติกสังเคราะห์ ที่อยู่ในกลุ่มสารประกอบฟิลเลอร์แบบกึ่ง ถาวร ที่มีความคงตัวสูง สามารถสลายไปได้เอง แต่จะสลายไม่หมดยังคงเหลือสารตกค้างในชั้นผิว ซึ่งมักจะนํามาใช้สําหรับ เติมร่องลึกบริวเณร่องจมูก หรือรอยแผลเป็น และมีใช้ในต่างประเทศ แต่ยังไม่ผ่าน อย.ไทย ทั้งนี้หากฉีดไปนาน ๆ อาจจะพบ ปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อน เกิดอาการแพ้ และอักเสบตามมาได้ รวมทั้งไม่สามารถฉีดสลายได้ จะต้องทําการขูดออกเท่านั้น Polymethyl-
methacrylate microspheres (PMMA) สารเติมเต็มโพลีเมริลเมธาใครเลต หรือ PMMA เป็นสารประกอบ ฟิลเลอร์ที่จัดอยู่ในกลุ่มแบบถาวร ซึ่งเป็นพลาสติกสังเคราะห์ ที่เป็นสารเติมเต็มจําพวกชิลิโคน หรือพาราฟิน และเป็นสาร สังเคราะห์เช่นเดียวกับ PLLA ที่มีความเข้ากันได้ดีกับเนื้อเยื่อในร่างกาย แต่จะไม่สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ ทําให้ ตกค้างในชั้นผิว หากฉีดไปนาน ๆ จะทําให้ฟิลเลอร์ไหล ส่งผลให้มีใบหน้าที่ผิดรูปได้ และจะไม่สามารถทําการฉีดสลายฟิลเลอร์ ออกได้ต้องทําการขูดออก หรือผ่าตัดเนื้อเยื่อออกเท่านั้น ทั้งนี้ในทางการแพทย์จะใช้สาร PMMA นี้สําหรับการผลิตเครื่องมือ ทางการแพทย์ เช่น เลนส์แก้วตาเทียม (Intraocular Lens : IOL) และซีเมนต์กระดูก (Bone Cement)
ข้อแนะน่าสาหรับการฉีดสารเต็มเติม
จากสารสังเคราะห์ขั้นต้น สรุปว่า Filler จําพวก HA เป็นสารที่ใส่เข้าไปแล้วมีปฏิกิริยากับเนื้อเยื่อน้อย ไม่เกิดภาวะ แทรกซ้อนที่อันตราย ได้ผลค่อนข้างดีและปลอดภัย ไม่ต้องทดสอบการแพ้
ข้อสําคัญต่อมา ควรตรวจสอบสารก่อนฉีดว่าเป็นสาร HA จริงหรือไม่ กล่องของสารที่ฉีด รวมทั้งผลิตภัณฑ์ ฉลาก เพื่อจะได้ไม่ถูกฉีดสารอื่นที่เป็นสารต้องห้าม ควรฉีดในสถานที่ที่มีสถานประกอบวิชาชีพที่แน่นอน ฉีดกับแพทย์ที่มีความชำนาญ
คุณผู้หญิงอ่านมาถึงตรงนี้ ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่มีลักษณะโมเลกุลขนาดเล็ก มีความละเอียดที่เหมาะสมกับผิวหนังใน บริเวณที่ต้องการฉีด เพราะถ้าฉีดฟิลเลอร์ชนิดที่มีความละเอียดของโมเลกุลขนาดใหญ่มากเกินไป จะไม่เหมาะกับผิวบริเวณ ที่ฉีด ส่งผลให้หนักและหน่วงผิว ทําให้ฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนที่ไปยังบริเวณอื่นบนใบหน้าได้ ซึ่งคนทั่วไปจะเรียกกันว่า “ฟิลเลอร์ไหล” ดังนั้นมาปรึกษาที่ awc wellness clinic ที่มีความชํานาญด้านการแนะนําและประสบการณ์ในการดูแลรักษา คนไข้ ให้ได้ผลลัพที่ดีและถูกใจกันนะคะ